ให้คำปรึกษาปัญหากฎหมาย

การทำนิติกรรม สัญญา การลงทุน การค้าระหว่างประเทศ
คดีปกครอง ทรัพย์สินทางปัญญา ภาษี เศรษฐกิจ คอมพิวเตอร์

ไม่รับปรึกษา
คดียาเสพติด คดีความมั่นคง และคดีอาญา
โดยทีมงานกฎหมายและสำนักงานทนายความ
ติดต่อได้ที่ kwmongkut@outlook.com

“เมื่อจักรวาลอาจเริ่มจากความว่างเปล่า และความจริงอาจปรากฏเพียงเมื่อเรารับรู้ — จิตสำนึกจึงมิใช่เพียงผู้สังเกต แต่คือเวทีที่ทุกสิ่งบังเกิดและดำรงอยู่”


รับฟังเสียงคำแนะนำกดที่ปุ่ม ▶️ (สีเขียว) หรือ ดาวน์โหลดหนังสือที่ปุ่ม 📄 (สีน้ำเงิน)

หนังสือ “ธรรมชาติของทุกสิ่งที่ดำรงอยู่” นำผู้อ่านเข้าสู่การสำรวจต้นกำเนิดของจักรวาลผ่านทั้งมุมมองฟิสิกส์และปรัชญา โดยเริ่มจากคำถามพื้นฐานว่า “จักรวาลเริ่มต้นอย่างไร?” ผ่านทฤษฎี Big Bang และแนวคิดอื่น เช่น จักรวาลหมุนเวียน จักรวาลพองตัว และพหุจักรวาล ซึ่งแต่ละแนวคิดต่างพยายามอธิบายว่า ก่อนจะมีสิ่งใด ๆ นั้นมีอะไรอยู่บ้าง ขณะเดียวกันหนังสือยังอธิบายกฎพื้นฐานของฟิสิกส์ เช่น แรงโน้มถ่วง กฎการเคลื่อนที่ และการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อสร้างความเข้าใจว่า ทุกอย่างในจักรวาลล้วนมีระเบียบและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน

เปิดประตูสู่โลกของฟิสิกส์ควอนตัมซึ่งท้าทายความเข้าใจแบบดั้งเดิมของเรา โดยเสนอแนวคิดอย่าง duality (อนุภาคเป็นทั้งคลื่นและจุด), entanglement (การพัวพันกันแม้อยู่ห่างไกล), และ superposition (สถานะซ้อนทับ) พร้อมกับยกตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีควอนตัมในโลกปัจจุบัน เช่น คอมพิวเตอร์ควอนตัม การพัฒนายา และ AI ทั้งนี้ หนังสือยังยกประเด็นว่า “ผู้สังเกต” มีผลต่อสิ่งที่ถูกสังเกต ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงจิตวิทยา เช่น Hawthorne Effect และ John Henry Effect ที่สะท้อนว่าเพียงแค่มีคนสังเกตก็อาจเปลี่ยนพฤติกรรมได้

เชื่อมโยงแนวคิดเชิงฟิสิกส์กับจิตสำนึก โดยตั้งคำถามว่า จิตสำนึกเป็นเพียงผลผลิตของสมอง หรือเป็นพื้นฐานของความจริงทั้งหมด นักปรัชญาอย่าง Dr. Tony Nader เสนอว่า จิตสำนึกไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากจักรวาล แต่เป็นสิ่งที่จักรวาลเกิดขึ้นมาจากมัน นำไปสู่การตีความว่าโลกที่เรารับรู้อาจเป็นเพียงภาพสะท้อนที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สังเกต (จิตสำนึก) กับสิ่งที่ถูกสังเกต ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้อ่านมองโลกและตัวเองในมุมใหม่ที่ลึกซึ้งและเชื่อมโยงระหว่างวิทยาศาสตร์ ปรัชญา และจิตวิญญาณ

📘 สารบัญหนังสือ “ธรรมชาติของทุกสิ่งที่ดำรงอยู่”

  • 1.1 Big Bang และทฤษฎีกำเนิดจักรวาล
  • 1.2 กฎพื้นฐานของฟิสิกส์ที่ปรากฏเป็นที่รู้จัก
  • 1.3 บทบาทของเวลา พื้นที่ และพลังงาน
  • 2.1 หลักการของควอนตัม: duality, entanglement, superposition
  • 2.2 ปรากฏการณ์ที่ท้าทายความคิดแบบเหตุผลเชิงเส้น
  • 2.3 Observer effect – บทบาทของผู้สังเกตต่อความจริง
  • 3.1 จิตสำนึกคืออะไร
  • 3.2 ทฤษฎีต่างๆ เช่น Panpsychism, Integrated Information Theory (IIT)
  • 3.3 ความสัมพันธ์ระหว่างจิตสำนึกกับฟิสิกส์ควอนตัม
  • 4.1 สมองเป็นเพียงเครื่องมือหรือผู้รับสัญญาณกันแน่
  • 4.2 คำอธิบายแบบองค์รวมของมนุษย์
  • 4.3 ทฤษฎี Holographic Universe และการเชื่อมโยงกับจิต
  • 5.1 กฎความสมมาตร ความไม่เปลี่ยนแปลง และความเป็นเอกภาพ
  • 5.2 การเชื่อมโยงระหว่างฟิสิกส์และกฎศีลธรรมตามธรรมชาติ
  • 5.3 ความเข้าใจแบบตะวันตก-ตะวันออก: กฎธรรมชาติ vs ธรรมะ
  • 6.1 ทฤษฎีสัมพัทธภาพและแนวคิดเรื่องเวลา
  • 6.2 Eternalism, Block Universe, Presentism
  • 6.3 ความสัมพันธ์ระหว่างเวลา การเปลี่ยนแปลง และการตื่นรู้
  • 7.1 Zero-point field และ vacuum energy
  • 7.2 ศูนย์ที่ไม่ว่าง: ความอุดมสมบูรณ์จากความว่างเปล่า
  • 7.3 ต้นกำเนิดของพลังงานและสรรพสิ่งจาก “ไม่มี”
  • 8.1 การทดลอง Double Slit
  • 8.2 จิตสำนึกกับการปรากฏขึ้นของความจริง
  • 8.3 บทบาทของ “เจตนา” ในการสร้างโลก
  • 9.1 เราคือธุลีแห่งจักรวาล หรือจักรวาลตื่นรู้ผ่านเรา
  • 9.2 ปรัชญาพุทธ สโตอิก และดาร์วินในมุมมองใหม่
  • 9.3 Self as process – การดำรงอยู่แบบเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
  • 10.1 จากทวิลักษณ์ (duality) สู่ภาวะไร้การแยก (non-duality)
  • 10.2 ความรู้สึกของความแยก: สาเหตุแห่งทุกข์
  • 10.3 การบูรณาการจิตวิญญาณกับวิทยาศาสตร์
  • 11.1 การปลุกจิตสำนึกในยุคของ AI และจักรวาลดิจิทัล
  • 11.2 มนุษย์ในฐานะสะพานเชื่อมระหว่างจิตกับจักรวาล
  • 11.3 ศาสตร์ใหม่ของการดำรงอยู่: Conscious Evolution
  • 12.1 สาระสำคัญจากทุกบท
  • 12.2 สัจธรรมที่ไม่ได้เป็นเพียงทฤษฎี แต่คือการตระหนักรู้
  • 12.3 หนังสือเล่มนี้คือคำเชิญสู่การทดลองใช้ชีวิตแบบองค์รวม
  • แหล่งอ้างอิงและบทความทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง
  • งานวิจัยด้านฟิสิกส์ควอนตัม ปรัชญา และพุทธธรรม
  • แนวคิดจากผู้เขียนต้นฉบับและงานศึกษาร่วมสมัย