อ่านข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมใน “ไทยรัฐออนไลน์” : https://www.thairath.co.th/content/110694
การลงโทษนักเรียนและนักศึกษา
ความจำเป็นของการลงโทษในการสร้างคนให้มีคุณภาพและปรับพฤติกรรมให้เป็นไปในทางที่ถูกต้องตามสังคมกำหนด แม้ว่าวิธีการลงโทษอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม แต่จุดประสงค์หลักยังคงเป็นการสร้างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ดีและมีประโยชน์สู่สังคมและบุคคลเอง
การศึกษาและวิจัยในด้านการลงโทษได้มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างสำคัญ โดยมุ่งหวังให้การลงโทษมีประโยชน์ต่อสังคมและบุคคลมากที่สุด วิธีการลงโทษได้เปลี่ยนแปลงจากการใช้ความรุนแรงกับร่างกายและจิตใจไปสู่การแก้ไขพฤติกรรมและการจำกัดเสรีภาพ โดยมุ่งหวังที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมหรือผู้อื่น
เมื่อเรียกว่าการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา ควรพิจารณาแบบไหนเพื่อให้เป็นระดับที่เหมาะสม คำตอบคือครูควรมีจิตสำนึกและความเป็นครูอันแข็งแรง เพื่อให้การลงโทษเป็นไปในทางที่สอดคล้องกับจุดประสงค์และไม่มีการทำลายจิตใจของผู้เรียน การลงโทษควรเน้นการแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
การลงโทษนักเรียนและนักศึกษาในอุดมคติ โดยเน้นว่าการลงโทษควรเป็นวิธีการสุดท้ายที่ครูหรืออาจารย์ควรใช้ต่อผู้เรียน และการทำโทษควรมีเจตนาแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นหลัก ครูหรืออาจารย์ไม่ควรลงโทษผู้เรียนอย่างรุนแรงในกรณีที่ผู้เรียนทำการบ้านผิด, ตอบคำถามผิด, หรือมีการเรียนที่ล่าช้า การลงโทษที่เหมาะสมในยุคปัจจุบันควรเลี่ยงการทำร้ายร่างกายและจิตใจผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ แทนที่จะแก้ไขพฤติกรรมด้วยกระบวนการเรียนการสอนที่เหมาะสมและการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสมแก่สถานการณ์ นอกจากนี้ ครูหรืออาจารย์ควรหลีกเลี่ยงการรับผิดชอบในการแก้ไขพฤติกรรมด้วยการทำร้ายร่างกายหรือจิตใจผู้เรียน และควรให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงดำเนินการแก้ไข เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจากหน่วยงานที่รับผิดชอบในการแก้ไขความประพฤติของเยาวชนหรือคนในสังคม
ศาสตราจารย์ ดร.กฤษมันต์ วัฒนาณรงค์